ทำ DEMO คือ ????

Demo ในวงการเสียง หมายถึง เสียงตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเสียงดนตรี หรือ background Music ต่างๆ

แล้วมันมีไว้ทำไม?

สำหรับศิลปินหรือนักแต่งเพลง เดโม่ทำไว้เพื่อยื่นตัวอย่างเพลงของตนกับทางค่ายเพลงและ studio หรือถ้าหากเป็นดนตรีที่ทำมาเพื่อขายเสียงบนเว็ปไซต์ต่างๆ เดโม่ก็จะมีไว้เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ ในบางครั้งเดโม่เพลงก็อาจเป็นกุญแจสำคัญในการเซ็นสัญญาระหว่างศิลปินกับค่ายเพลงเลยก็ได้

การที่จะเริ่มทำเดโม่ ... สิ่งที่ต้องมีก่อนทำเดโม่ คือ “เพลง”

การที่เราจะทำเพลงขึ้นมา 1 เพลง ควรเริ่มจากอะไร?

ลองเริ่มจากหา idea การทำเพลง เช่น อาจมาจากการแจมกันเล่นๆระหว่างเพื่อน หรืออาจมาจากการฮัมเพลงตอนอาบน้ำ เป็นต้น หากคิดได้ควรบันทึกไว้เป็น idea โดยอาจบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ smart phone เพื่อกันลืม แล้วสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาสานต่อจนเป็นเพลงได้

เมื่อมีเพลงแล้ว จะทำเดโม่ด้วยวิธีไหน?

โดยในปัจจุบันการบันทึกเสียงไม่ใช่เรื่องยากและมีหลากหลายวิธี เช่น

- บันทึกเสียงทาง smart phone เป็นทางเลือกแรกๆ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่า smart phone แทบจะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวที่สุดแล้ว ซึ่งมี application ที่สามารถ edit เพลงได้ หรือจะนำเสียงที่บันทึกจาก smart phone ไป edit ต่อบนคอมพิวเตอร์ก็ได้ แต่ตัวเลือกนี้อาจไม่ได้เสียงที่มีคุณภาพเท่าไหร่

- บันทึกเสียงทาง Computer software เป็นการบันทึกด้วยคอมพิวเตอร์ผ่าน DAW เช่น Protools, Logic, Cubase หรือโปรแกรมอะไรก็ได้ การที่จะบันทึกเสียงด้วยคอมพิวเตอร์นั้น อาจต้องมี interface หรือ soundcard และความรู้ด้านการบันทึกเสียง ความรู้ด้านโปรแกรมที่ใช้อัดเสียง ความรู้เรื่องอุปกรณ์การอัดเสียง ก็จะสามารถบันทึกเสียงและทำเดโม่ของได้แล้ว หากเราไม่มีความรู้ด้านนี้ และไม่มีอุปกรณ์ (ซึ่งราคาค่อนข้างสูง) ก็จะมีตัวเลือกให้ในข้อถัดไป

- ใช้บริการห้องอัดเสียงที่ได้มาตรฐาน ซึ่งจะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถด้านการอัดเสียงโดยเฉพาะ ควบคุมอัดเสียงให้ และให้คำปรึกษาการทำเดโม่เพลงของเราให้สำเร็จ และการใช้บริการห้องอัดเสียง จะได้เสียงที่คุณภาพดี

ถ้าต้องการอัดเดโม่ด้วยตัวเองด้วย DAW จะต้องใช้อะไรบ้าง

Audio interface
Digital Audio Workstation(DAW) เช่น Logic Pro X, Protools, etc.
ไมโครโฟน
คอมพิวเตอร์
เครื่องดนตรีที่ต้องการใช้

ขั้นตอนการทำเพลง

Step 1 หา idea เพลง

การแต่งเพลง โดยส่วนมากเราจะเริ่มจากหา idea แล้วนำมา idea ที่ได้มาต่อเป็นเพลง

Step2 เริ่มจากสร้างฐานให้เพลงของคุณ

เริ่มจากกลอง แล้วกลองจะส่งผลต่อ part ที่เหลือ ต่อมา คือ Bass และ คอร์ดกีตาร์ หรือ piano

Step 3 ใส่เสียงร้อง

บันทึกเสียงร้อง โดยไม่จำเป็นต้องใส่พลังทั้งหมดในการร้องเอาแค่พอ ให้เห็นรูปร่างของเพลงก็พอ

Step 4 การตกแต่งเพลง

เป็น part ที่สนุกอย่างมาก เมื่อเพลงของคุณเริ่มจะเป็นเพลงขึ้นมาแล้ว มันถึงเวลาที่ต้องใส่สีสันกันบ้าง

อาจเป็นการเติมเสียงต่างๆ ในท่อนต่างๆ เช่น เติมกีตาร์คอร์ดเล็กๆในท่อนฮุก เพิ่มเสียง syn แสบๆ เพิ่มเครื่องเป่า หาเสียงแปลกๆ มันช่วยให้เพลงมีอะไรมากขึ้น

Step 5 อัดเสียงร้องจริงจัง

สุดท้ายของการบันทึกเสียง อัดเสียงร้องลงไปครั้งนี้ ร้องให้ดีที่สุดจนพอใจกับเสียงที่ได้ แล้วใส่เสียงประสานหรือ chorus เข้าไปด้วยเพื่อให้เสียงร้องดูเต็มมากขึ้น

Step 6 Mixing

เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา ลองเริ่มจากการ balance จัดตำแหน่งเสียงต่างๆให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ

ลองใส่ EQ ทำ Compression เติม Reverb, Delay ให้ได้ตามที่พอใจ

ลองฝึกทำเดโม่ ไปเรื่อยๆ ยิ่งทำมากขึ้น เดโมที่ได้ก็จะยิ่งดีขึ้นไปด้วย ที่กล่าวมานี้เป็นแค่แนวทางหนึ่งในการทำเดโม่ ซึ่งยังมีอีกหลายวิธีในการทำเดโม่ ขอให้ทุกคนสนุกกับการทำเดโม่

Note : อย่ารีบใช้เงินมากเกินไปกับ production เพราะการทำเดโม่ยังไม่ใช่ผลงานสุดท้ายจริงๆ มันไม่จำเป็นจะต้องใช้เงินจำนวนมากกับการทำเดโม่

แหล่งอ้างอิง :

https://imusiciandigital.com/en/blog/how-do-i-make-my-first-demo

https://www.musicindustryhowto.com/how-to-make-a-music-demo-in-7-steps/

https://www.thebalancecareers.com/what-is-a-music-demo-and-why-do-i-need-one-2460501

เครดิตรูป

ภาพโดย Anna Zielińska จาก Pixabay

แปลและเรียบเรียงโดย : กิตติธร หิมะสุข

เรียบเรียงโดย : สุชาดา พาณิชยางกูร

จัดทำโดย บริษัท ชัยชนะซาวด์ จำกัด