คำที่ควรรู้เมื่อต้องการทำการบันทึกเสียง หรือ มิกซ์เสียงเบื้องต้น Part 2

สำหรับใน part ที่ 2 จะเป็นคำที่ออกจะเฉพาะทางสักหน่อยอาจจะไม่ค่อยเจอแต่ถ้าหากคุณรู้ คุณจะคุยกับ engineer ได้ง่ายเลยทีเดียว

Room resonances : การตอบสนองต่อความถี่ของห้องโดยแต่ละห้องจะมีความแตกต่างกันตามการออกแบบ

Distortion : ก็คือเสียงแตกเกิดจาก เสียงที่ Overloading ใน amplifier

Ambience : เสียงบรรยากาศพื้นหลัง บางครั้งใช้ในการบันทึกแบบ live session ส่วนมากเป็นแบบ short room reverb

Delay : processor ที่ทำหน้าที่ สร้าง copy ของเสียงและทำการเล่นซ้ำแบบค่อยๆเบาลงๆเหมือนเสียงสะท้อน

Reverb : เสียงสะท้อนจากห้องที่มีแหล่งกำเนิดเสียง หรือเสียงก้องนั่นเอง

Pitch Shifter : การเปลี่ยนคีย์ของเสียง

Flat : เสียงที่ไม่ได้รับการ eq หรือใด ถ้าเป็นกราฟก็คือเส้นตรง

Sine wave : เป็นรูปแบบของคลื่นเสียงแบบคลื่น

Amplifier : เรียกกันสั้นๆว่าแอมป์ เป็นตัวขยายสัญญาณจาก input

MIDI : ย่อมาจาก Music Instrument digital interface หมายถึงมาตรฐานของรหัสที่เป็นตัวเลขของเสียง

ส่วนมารู้จักกันในรูปของคีย์บอร์ดใบ้

Monitor : ปกติจะนึกถึงจอคอมพิวเตอร์ แต่บากครั้งจะหมายถึงลำโพงที่ใช้สำหรับ Studio

XLR : สายสัญญาณ เป็นหัว 3 pin

Bounce : มีความหมายเหมือนกับ Export

BPM : beat per minute หรือ tempo

Looping : การเล่นวนซ้ำ

Signal flow: ทิศทางการเดินทางของสัญญาณ ขึ้นอยู่กับการต่อ system

Mute : การปิดเสียงไม่ให้ได้ยิน

Backing Track : เสียงดนตรีพื้นหลังที่อยู่นอกเหนือที่คนเล่นกำลังจะเล่น

คำเหล่านี้คงมีประโยชน์กับคุณแน่นอนหากคิดที่จะเข้าห้องอัดหรืออยากทำงานอะไรที่เกี่ยวของกับดนตรี

ขอให้สนุกกับการทำเพลงครับ

แปลและเรียบเรียงโดย กิตติธร หิมะสุข